สวัสดีครับ สำหรับวีดีโอนี้ ผมมีข่าวดีมาบอก นั่นก็คือ เราสามารถหารายได้จากเว็บไซต์ของเราได้ครับ เดี๋ยวเราลองมาดูกันดีกว่าครับว่า เราจะมีวิธีการหารายได้จากเว็บไซต์ของเราอย่างไรบ้างครับ
วิธีที่ 1 วิธียอดฮิต คือติดโฆษณา
เมื่อเรามีเว็บไซต์แล้ว ถ้าเรามีเนื้อหาในเว็บไซต์บ้างแล้วพอสมควร วิธีการหารายได้ที่ง่ายที่สุดเลยก็คือ การติดโฆษณาลงไปบนเว็บไซต์ของเรา นั่นเองครับ
เอเจนซี่โฆษณา บนโลกอินเตอร์เน็ตของเรา มีมากมายหลายเจ้ามากๆครับ แต่เจ้าที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบันนี้ก็คือ Google นั่นเองครับ ซึ่ง Google จะลงโฆษณากับเราภายใต้โปรแกรมที่ชื่อว่า Google Adsense ครับ นอกจาก Google Adsense แล้ว เราก็มีเจ้าอื่นๆ อย่าง Media.net ,Revenue Hits หรือ แม้แต่การขายโฆษณาเองเราก็ทำได้เช่นกันครับ
เราลองมาดูรายละเอียดกันครับ
1) การติดโฆษณาบนเว็บไซต์ เราจะมีรายได้คิดเป็นต่อคลิกตั้งแต่ 0.1 USD จนถึง 1 USD กันเลยทีเดียวครับ รายได้ต่อคลิกหมายความว่า คนที่เข้ามาดูเว็บไซต์ของเรา แล้วเห็นโฆษณา แล้วเกิดการคลิกที่โฆษณานั้นครับ เราถึงจะได้ค่าตอบแทน
*** แต่ !! ห้ามไปคลิกโฆษณาบนเว็บตัวเองเด็ดขาดนะครับ เพราะ ค่าย Agency ต่างๆ มีความฉลาดมากครับ เค้าสามารถรู้ได้ว่า คลิกไหนโกง คลิกไหนไม่โกง ถ้าจับได้ว่าเราโกงเมื่อไร เราอาจจะถูกระงับบัญชีได้ครับ
2) รายได้ของเรา จะขึ้นอยู่กับยอดวิวเป็นหลักเลยครับ ยิ่งมีคนเข้ามาดูมาก โอกาสที่จะคลิกโฆษณาก็ยิ่งมีมากครับ
3) ดังนั้นยิ่งยอดวิวเยอะ ยิ่งคลิกเยอะ ยิ่งรายได้เยอะ ตามไปด้วยนั่นเองครับ
มาดูรายได้เฉลี่ยกันนิดนึงครับ ว่าการหารายได้จากการโฆษณานั้นมีรายได้เป็นอย่างไร
หน้านี้เป็นหน้าที่ผมได้ Capture มาจากหน้าจอ Report ของ Adsense ในเว็บที่ผมทำอยู่ครับนะครับ จะเห็นได้ว่า รายได้ 1 USD เกิดจากยอดวิว ประมาณ 1,700 วิวครับ
มาลองดูตัวอย่าง การวางโฆษณากันครับ
ที่ kapook.com เป็นเว็บไซต์อันดับต้นๆ ในประเทศไทยเลยทีเดียว และเป็นเว็บที่มีรายได้จากค่าโฆษณาเป็นหลักเลยก็ว่าได้ครับ
จะเห็นได้ว่า เปิดมาถึงก็เจอโฆษณาวาง ในหลายๆที่ของหน้ากันเลยครับ นั่นก็เพราะว่า เว็บแห่งนี้ มีคนสนใจที่จะลงโฆษณากับเค้าเยอะครับ เค้าจึงมีโฆษณาเต็มแบบนี้ครับ
วิธีที่ 2 รวยแบบ ไม่ต้องมีสินค้า คือ Affiliate
ถ้าใครยังไม่รู้จักว่า Affiliate คืออะไร ผมขออธิบายสั้นๆแบบนี้ก็แล้วกันครับ ว่า Affiliate คือ การช่วยคนอื่นขายสินค้า แล้วได้ค่าตอบแทน เป็นค่าคอมมิสชั่น ต่อหนึ่งการขายครับ คนที่ทำการแนะนำสินค้า เราจะเรียกว่า Affiliator ครับ
เราลองมาดู กันครับว่า มีบริษัทไหน ที่เค้าจะให้เราทำ Affilate ได้บ้าง
Amazon บริษัทนี้คือบริษัทที่ให้ Affiliate ที่ใหญ่มากๆ ในวงการค้าปลีกครับ เรียกได้ว่า สร้าง Affiliator ให้รวยกันมาแล้วหลายคนมากๆครับ เราสามารถแนะนำสินค้าอะไรก็ได้ใน Amazon ครับ เมื่อเกิดการซื้อขาย เราก็จะได้รับค่าคอมมิสชั่น เป็นการตอบแทนครับ
Click Bank เจ้านี้ ก็ถือว่า เป็น ยักษ์ Affiliate อีกเจ้าที่ใหญ่มากทีเดียวบนอินเตอร์เน็ตครับ ซึ่งเจ้านี้เค้าจะเป็น Agency ครับไม่ได้ขายของๆตัวเอง เหมือนกับ Amazon
CJ Affiliate เจ้านี้ ก็เป็น Affiliate Network อีกเจ้าหนึ่ง ที่นิยมบน อินเตอร์เน็ตเช่นกันครับ
ต่อมาครับ มาดู JVZoo ตัวนี้ เป็น Affiliate Network ที่เน้นสินค้า Digital ครับ หรือ สินค้าที่เปิดให้ Download ได้นั่นเองครับ เช่น โปรแกรม ภาพกราฟฟิก วีดีโอฟุตเทจ หรืออะไรที่ Download ได้จะเข้าข่าย สินค้า Digital ทั้งหมดครับ
และอีกแนวทางนึงครับ Agoda เป็นบริษัทจองที่พักครับ ซึ่งเค้าเปิดให้เราเป็น Affiliate Partner ช่วยเค้าแนะนำผู้ชมเว็บของเรามาจองที่พักที่ Agoda ได้ครับ
คอนเซปต์ของการทำ Affiliate บนเว็บไซต์ จะมีแนวทางดังนี้ครับ
1) เราจะต้องแนะนำสินค้าด้วยลิงค์ หรือ รูปภาพแบนเนอร์ ที่อยู่บนเว็บไซต์ของเราครับ
2) รายได้ขึ้นอยู่กับชนิดของสินค้าครับ ถ้ายิ่งสินค้า ที่มีราคาสูงมาก ก็จะยิ่งมีค่าคอมมิสชั่นมากตามไปด้วยครับ แต่อาจจะขายยากมากขึ้นเช่นกันครับ
3) จำนวนคลิก ขึ้นอยู่กับลีลาของเราว่า เราจะทำให้คนคลิกลิงค์ในเว็บเรามากเท่าไร เช่นเราอาจจะเขียนบทความ ที่เกี่ยวข้องแล้วทำให้คนอยากซื้อก็ได้ครับ
4) ยิ่งยอดวิวเยอะ ก็ยิ่งมียอดคนคลิกเยอะเป็นเงาตามตัวครับ
ลองมาดูเรื่องค่าตอบแทนกันครับว่า ค่าตอบแทนจากการช่วยขายสินค้า หรือ Affiliate นี้เป็นอย่างไรบ้าง
ตารางนี้ผมได้มาจาก amazon.com ครับ ซึ่ง amazon.com จะให้ค่าตอบแทนตามจำนวนสินค้าที่เราขายได้ครับ ยิ่งขายได้มาก เราก็จะยิ่งได้ค่า คอมมิสชั่น มากตามไปด้วยครับ
หรือบางแห่ง ก็มีการให้ค่า คอมมิสชั่น เป็น Flat Rate ต่อการขายเลยก็มีครับ
แล้วยิ่งถ้าเป็นสินค้า Digital ค่า Commission มักจะมากกว่า สินค้าบริการ ทั่วไปครับ ซึ่งมีโอกาส มากถึง 30% – 50% เลยทีเดียวครับ
อันนี้เป็น Report รายได้ที่ผมได้ช่วยขายที่พักให้กับ Agoda.com ครับ จะเห็นว่ามีคน คลิกลิงค์ พันกว่าคนครับ แต่จำนวนคนที่สนใจจองจริงๆ ประมาณ 24 คนครับ ได้มาเก้าสิบเหรียญ ถือเป็นค่าเว็บโฮสติ้งแล้วกันครับ
ลองมาดูตัวอย่าง เว็บจริงกันบ้างครับว่า เค้าทำ Affiliate กันได้อย่างไร
ลองมาดูเว็บนี้กันครับ https://hostadvice.com/hosting-companies/vps/ เว็บนี้เค้าเป็นเว็บที่แนะนำเว็บโฮสติ้งครับ เค้าจะเป็น Affiliate Partner กับ เว็บโฮสติ้งที่เค้าแนะนำครับ ลองดูลิงค์ที่ไปโผล่ที่เว็บโฮสติ้งครับ บางลิงค์ จะมีตัว Affiliate ID ให้เราได้เห็นกันครับ
วิธีที่ 3 ยอดวิวดี ต้องรีวิว
เมื่อเว็บของเราเติบโต ได้สักระยะหนึ่ง นักการตลาดจาก หลายๆแบรนด์ มักจะติดต่อให้เหล่า blogger ที่มียอดวิวเยอะๆ หรือ เว็บที่ติดอันดับสูงๆ ใน Google มาช่วยรีวิวสินค้า ของเขาครับ เพราะว่า ในปัจจุบัน คนมักจะเชื่อรีวิวในอินเตอร์เน็ต มากกว่าการโฆษณาทางทีวีโดยตรงเสียอีกอีกนะครับ
มาดูกันครับว่า เรารีวิวอะไรกันได้บ้าง
1) เครื่องสำอาง เป็นสินค้ายอดฮิตเลย แล้วก็มีกระแสตามการรีวิว และ การใช้งานของเหล่า Celeb กันอย่างมากครับ เวลามีคนรีวิวกันหลายๆคนว่าดี คนก็แห่กันไปใช้ตามครับ
2) รีวิวที่พัก เดี๋ยวนี้คนจะไปเที่ยว ก็ต้องหาข้อมูลกันก่อนครับ ยิ่งมีคนรีวิวเยอะ ที่พักนั้นยิ่งได้เปรียบ เพราะเป็นที่รู้จักมากกว่าครับ
3) รีวิวร้านอาหาร เชื่อไหมครับว่า เดี๋ยวนี้จะกินอะไร ต้องดูคนรีวิวครับ ยิ่งร้านไหนคนชมเยอะในอินเตอร์เน็ตมักจะได้เปรียบครับ แล้วถ้าร้านไหนรีวิวไม่ดีนี่ก็แป้กเลยทันทีครับ
4) รีวิวบริการ ร้านต่างๆ เช่น ร้านสปา ร้านเสริมสวย และ ร้านอื่นๆ อีกมากมาย อย่างเช่น ช่วงก่อน จะมีรีวิวร้านขายจักรยาน ให้เห็นกันมากมายครับ
5) รีวิวร้านกาแฟ สำหรับร้านกาแฟ เดี๋ยวนี้ ผุดเยอะยังกับดอกเห็ดครับ ถ้าร้านไหนไม่มีรูปภาพ ไม่มีรีวิวอยู่บนอินเตอร์เน็ต โอกาสที่คนจะเข้าถึงแทบไม่มีครับ อย่างนี้ต้องพยายามหาคนมารีวิวแน่นอนครับ
6) รีวิวสินค้าอื่นๆ เช่น หนังสือก็รีวิวได้ เกม การ์ตูน หนัง หรือแม้แต่ เครื่องปิ้งขนมปัง ยังรีวิวกันได้เลยครับ
7) รีวิวแอพพลิเคชั่น ในโลกยุคนี้เป็นยุคที่มี แอพพลิเคชั่นเกิดใหม่ รายนาทีกันทีเดียว เพราะฉะนั้น แอพพลิเคชั่นก็ต้อง ทำการตลาด โดยเฉพาะ การรีวิวนั้น ช่วยให้แอ็พพลิเคชั่นที่เกิดใหม่ เป็นที่รู้จักได้ง่ายขึ้นครับ
ลองมาดูคอนเซบของวิธีนี้กันดีกว่าครับ ว่าเป็นอย่างไรกันบ้างครับ
1) ผู้ที่จะซื้อรีวิว จะดูอันดับเว็บไซต์ของเราจาก Google เป็นหลักครับ ยิ่งเราติดอันดับที่ดี โอกาสที่เค้าจะติดต่อเรามาก็ยิ่งมีเยอะครับ
2) ยิ่งอันดับดี ก็ยิ่งมีค่าตอบแทนสูงครับ เพราะว่ากันดับดีหมายถึง การเรียกคนเข้ามาดูรีวิวได้เยอะกว่าด้วยครับ
3) เราเป็นคนกำหนดค่าตอบแทนได้ว่า เราจะกำหนดเท่าไรต่อการรีวิว และค่าตอบแทนนี้ เค้าเรียกว่า Rate Card ไม่ใใช่ติดเรทนะครับ แต่เป็นอัตราค่าโฆษณา ในตำแหน่งต่างๆของเว็บไซต์ เรา เช่น รีวิวขึ้นหน้าแรก รีวิวขึ้นหน้าทั่วไป ราคาก็จะแตกต่างกันครับ
4) ยิ่งเรามีชื่อเสียง มีแบรนด์ เป็น Celeb หรือ ผู้ติดตามเยอะๆ นะครับ ค่าตอบแทนในการรีวิวยิ่งสูงมากเลยทีเดียว
ลองมาดูตัวอย่างของจริงกันบ้างครับว่า เค้ารีวิวกันอย่างไร
ลองมาที่เว็บไซต์นี้ครับ http://www.ladyissue.com/category/pr-brand เว็บนี้มีทั้งการวางโฆษณาและการรีวิว แบรนด์ต่างๆ มากมายเลยครับ โดยเขาจะรวบรวม การรีวิวแบรนด์ ไว้ใน หมวดหมู่ที่ชื่อว่า PR Brand ครับ
วิธีที่ 4 สร้างรายได้แบบยั่งยืน ต้อง E-Commerce
สำหรับวิธีอื่นก่อนหน้านี้ พึ่งพาคนอื่น หรือเจ้าของธุรกิจอื่นอยู่บ้างนะครับ แต่ถ้าใครอยากสร้างรายได้อย่างยั่งยืน ก็ต้องสร้าง E-Commerce Website ของตัวเองครับ
เว็บไซต์ชั้นนำในเรื่อง E-Commerce นั้นมีมากมายครับ แต่ผมจะยกตัวอย่าง ให้แบบนี้แล้วกันครับ
1) amazon.com เป็นร้านค้าปลีกอันดับหนึ่งบนโลกออนไลน์ ที่ขายของไปทั่วโลกครับ
2) alibaba.com นี่ก็เป็นเว็บไซต์ขายส่งอันดับหนึ่งจากจีนเลยครับ หรือถ้าอยากซื้อปลีก เค้าก็มี aliexpress ให้บริการครับ
3) lazada.co.th เว็บไซต์นี้ ได้มาทำตลาดในไทย สักพักหนึ่งแล้วครับ จนคนไทยเริ่มคุ้นเคยกับการช้อปปิ้ง online ไปแล้วครับ
4) udemy.com เว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์ ขายคอร์สออนไลน์ซึ่งเป็น E-Commerce อีกรูปแบบหนึ่งครับ คำว่า E-Commerce นั้น เราสามารถขายอะไรก็ได้ครับ ไม่จำเป็นต้องขายสิ่งของที่จับต้องได้อย่างเดียวครับ
5) se-ed.com จากร้านหนังสือที่มีหน้าร้าน ก็ต้องปรับตัวมาขาย Online เพิ่มเติมครับ ถ้าใครมีธุรกิจอยู่ แล้วยังไม่ Online นะครับต้องรีบ Online แล้วครับเพราะ การ Online จะเป็นการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงลูกค้าของเราครับ
ในปัจจุบัน การสร้างร้านค้า Online หรือทำ E-Commerce นั้นง่ายกว่าสมัยก่อนมากๆ และ ต้นทุนต่ำกว่าเดิมมากครับ โดยผมได้รวบรวม software ฟรีมาให้ดังนี้ครับ
1) Woocommerce ปลั๊กอินสำหรับทำ E-Commerce อันดับหนึ่งบน WordPress ครับ
2) Presta Shop ซอฟท์แวร์ E-Commerce โดยตรงที่ได้รับความนิยมสูงจากเจ้าของกิจการในต่างประเทศมากๆครับ
3) Open Cart เป็นซอฟท์แวร์ E-Commerce ที่ใช้งานได้ง่ายตัวหนึ่งในโลก E-Commerce เลยครับ
4) Magento ตัวนี้เรียกได้ว่าเป็น พี่ใหญ่ ของวงการ E-Commerce Software เลย เพราะสามารถทำเว็บไซต์ E-Commerce ระดับ Enterprise Scale ได้เลย
มาดูกันดีกว่าครับว่า การทำ E-Commerce นั้น มีข้อดีอย่างไร
1) เราควบคุมได้ทุกอย่าง ตั้งแต่การหาสินค้า การโฆษณา และรายได้ของเราไม่ต้องขึ้นอยู่กับ บริษัทโฆษณา
2) ต้นทุนต่ำกว่าการเปิดร้าน ทั่วไปมากๆ อย่างเช่น ถ้าเราจะเปิดร้านขาย เครื่องสำอาง แค่ค่าเช่าที่หนึ่งเดือน อาจจะแพงกว่า ค่าเช่าเว็บโฮสติ้งทั้งปีก็เป็นได้
3) ไม่ต้องใช้คนบริหารจัดการมาก เพราะระบบ E-Commerce เป็นระบบ Automatic ลูกค้าสามารถเลือกดูสินค้า ชำระเงินได้เลยในเว็บไซต์ของเรา ไม่ต้องมีพนักงานต้อนรับ หรือแนะนำสินค้า เราจะจัดการอีกทีก็ตอนส่งของให้ลูกค้าแล้ว
4) มีโอกาสทำเป็นธุรกิจแบบ Ever Green ครับ คำว่า Evergreen คือการทำให้ระบบของเรามันอัตโนมัติทั้งระบบ โดยใช้คนดูแลน้อยๆ เราก็จะมีรายได้มากแบบไม่ต้องกังวลแล้วครับ
มาดูเว็บไซต์ยอดนิยมสำหรับ E-Commerce กันดีกว่าครับ
ผมขอยกตัวอย่างเว็บ Lazada แล้วกันครับ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันดี Lazada มีระบบที่เป็นอัตโนมัติทั้งระบบครับ เมื่อลูกค้ามาดูสินค้าแล้วชอบ ก็สามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ได้เลย เมื่อเจ้าของสินค้าได้รับคำสั่งซื้อ เค้าก็จัดส่งสินค้าได้ทันทีเลยครับ
วิธีที่ 5 ปั้นเว็บแล้วขาย รายได้อื้อซ่า
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามีวิธีนี้อยู่ด้วยครับ แต่จริงๆแล้ววิธีนี้เป็นวิธีคลาสสิคมาก สำหรับสมัยที่ อินเตอร์เน็ตเริ่มแพร่หลายใหม่ๆ มีคนสร้างเว็บให้เป็นที่รู้จัก แล้วก็ขายเว็บไซต์ให้กับนักลงทุนครับ
เราลองมาดูกันครับ สำหรับเว็บไซต์ Sanook.com ผมถือว่าเป็นเว็บไซต์ ไอดอล สำหรับคนที่เริ่มทำเว็บไซต์สมัยก่อนเลยทีเดียว นั่นก็เพราะว่า บริษัท MWeb ได้เข้าซื้อเว็บไซต์ Sanook.com ด้วยมูลค่าที่ไม่เปิดเผยครับ แต่ลือกันว่า หลักสิบล้าน ถึงร้อยล้านเลยทีเดียวครับ
มาถึงตรงนี้หลายคนมีคำถามว่า แล้วจะมีคนมาซื้อเว็บไซต์ เราได้อย่างไร มีอยู่สองวิธีครับ วิธีแรก รอแมวมอง ถ้าแมวไม่มอง ก็ขายไม่ได้นะครับ ส่วนวิธีที่สองก็คือ ใช้บริการตลาดกลางซื้อขายเว็บไซต์ครับ ซึ่งถ้าต่างประเทศเค้ามีการเปิดเป็นจริงเป็นจังกันเลย อย่างเช่น เว็บไซต์ Empire Fipper และ เว็บไซต์ Flippa ครับ ส่วนในประเทศไทย ที่จะขายได้ก็จะเป็นตามเว็บบอร์ด ที่เกี่ยวข้องกับการทำเว็บไซต์เว็บต่างๆครับ
หลักการสำหรับการปั้นเว็บไซต์แล้วขาย จะมีดังนี้ครับ
1) ปั้นเว็บให้ติดอันดับ Google เมื่อติดอันดับแล้ว แมวก็จะมามองครับ
2) เว็บมีฐานผู้ชมอยู่แล้ว เมื่อแมวมามองแล้ว เค้าก็จะถามถึงสถิติเว็บไซต์เราครับว่า มีคนเข้ามาชมวันหนึ่ง สักกี่คนครับ ถ้าเห็นว่ามีฐานพอสมควร แมวจึงจะสนใจครับ
3) เว็บมีแนวโน้มที่จะสร้างรายได้ อย่างเช่น สามารถวางโฆษณาได้ หรือมีบริการอื่นๆภายในเว็บ แบบนี้ แมวมองยิ่งชอบครับ เพราะซื้อไปสร้างรายได้ ได้แน่ๆครับ
ปั้นเว็บให้ดัง เพื่อตังของเรา
มาถึงตรงนี้ ผมจะสรุปหลักการหารายได้จากเว็บไซต์ให้นะครับว่า เราจะต้องทำอย่างไร
1) เว็บไซต์ของเราต้องมีเนื้อหาที่ดี มีคุณภาพน่าติดตาม
2) เราต้องทำ SEO ให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับ Google
3) เราต้องสร้างแบรนด์ของเรา ให้คนจดจำได้ แล้วเข้ามาซ้ำอีก
4) ต้องโปรโมทและเสริมยอดวิวกันด้วย Social Media
เราก็ได้เรียนรู้ รูปแบบการหารายได้จากเว็บไซต์ ทั้ง 5 รูปแบบ ไปแล้วนะครับ แล้วก็จบด้วย เคล็ดลับที่จะทำให้เว็บไซต์ มีรายได้เข้ามาอย่างไม่ขาดสายนะครับ
อยากทราบค่ะว่า ถ้าต้องการทำ website ที่แนะนำ ร้านค้าต่างๆ ว่า ช่วงนี้ร้านอะไร ลดราคาบ้าง แล้วทำ link ไปที่ website ของร้านๆ นั้น เราต้องขออนุญาติ จากร้านต่างๆ หรือเปล่าค่ะ กลัวผิดเรื่อง copyright นะค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะค่ะ
ถ้าไม่เอารูปและข้อความมาใช้ ไม่เป็นไรครับ แต่ถ้านำรูปหรือข้อความมาใช้อันนี้ต้องไปคุยไว้ก่อนครับ
ขอบคุณมากนะค่ะ 🙂
สร้างเว็บไซต์จาก wordpress ดีที่สุดมั้ยคะ หรือจาก wix จากไหนก็ได้?
มีความเเตกต่างกันมั้ยคะ?
WordPress ที่ผมพูดถึงเป็น WordPress.org นะครับ ซึ่ง WordPress.org เป็น Software Download มาติดตั้งที่ โฮส ข้อมูลอยู่กับเรา แต่ถ้า Wix เป็นเว็บสำเร็จรูปใช้ได้เลย แต่เก็บข้อมูลที่ Wix นอกจากนั้นยังมีความแตกต่างเรื่องโปรแกรมเสริมซึ่ง WordPress.org มีมากกว่าครับ
เพิ่งเปิดเพจและเว็บไซต์เป็นของตัวเองค่ะ ต้องการติดตั้ง facebook instant article แต่เมื่อเข้าไป sign up เพื่อขอลงทะเบียนกับเฟสบุ๊ค แต่กลับไม่มีเพจของเราขึ้นมาให้เลือก อยากทราบว่าเป็นเพราะอะไรเหรอคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
เพจของเราอาจจะยังไม่ผ่านเกณฑ์ครับ
อยากทราบว่า website ประเภทพวก community website แบบเฉพาะทาง จะสามารถหารายได้จากทางไหนบ้างครับ
Community เฉพาะทางด้านไหนครับผม
อยากทำเว็บไซด์ ที่แปะโฆษณาครับ
มีลู่ทางในการหายอดคลิกแล้ว. แค่ยังสร้างเว็บไม่เป็น. ช่วยแนะนำด้วยครับ
เริ่มจากการเช่าโฮส เขียน Blog ลงเนื้อหาก่อนได้เลยครับ แล้วค่อยส่งไปสอบกับ Google เพื่อลงโฆษณาครับ
ผมทำเกี่ยวกับ ข่าวฟุตบอล และ ไฮไลท์ และทักษะฟุตบอล จะเริ่มบนเว็บไซต์ ทางไหน ได้ครับ ช่องทางการสร้างรายได้ ช่วยแนะนำหน่อยครับ
ทำเนื้อหาเกี่ยวกับฟุตบอลตุนไว้สักสองโหลครับ แล้วค่อยๆเขียนเป็น Blog ครับผม
กำลังจะเปิดweb ดูหมอฟรีรายบุคคล อังกฤษ-ไทย จะมีรายได้เข้ามาอย่างไรคะ หรือไม่คะ
เราเปิดรับจ้างดูรายคน น่าจะมีรายได้เข้ามานะครับ แต่ต้องทำการตลาดด้วยครับ
ผมทำbloggerแล้วทำเสร็จเอาโฆษณาของAdsense และ popads ไปใส่แล้วไม่ขึ้นผ่านมา3วันแล้วครับยังไม่เห็นโฆษณาเลยครับ
adsense อนุมัติหรือยังครับ blogger ให้ใส่ได้แค่ adsense นะครับ 🙂
เราจะสามารถทำ Adsense บนเวปไซต์สำเร็จรูปได้รึเปล่าครับ เช่น Readyplanet
หากทำได้ ทำอย่างไรครับ?
ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ
ต้องดูว่าใส่ code เข้าไปได้หรือเปล่าครับ ถ้าใส่ไม่ได้คือ ติดไม่ได้ครับผม
สามารถทำ Adsense บนเวปไซต์สำเร็จรูปได้หรือไม่ครับ? เช่น Readyplanet
หากทำได้ ทำอย่างไรครับ เนื่องจากไม่มีที่ให้ใส่ Script หรือ Code เลย
ถ้าใส่ code ไม่ได้ คือติดไม่ได้ครับผม
คือ ต้องการทำเว็ปไซด์ ให้ร้านค้าต่างๆมาลงโฆษณา ค่ะ ไม่ทราบว่า รายได้เราจะได้จากทางใดได้บ้างค่ะ ขอบคุณค่ะ
ได้จากค่าสมาชิกและโฆษณาครับ แต่ลักษณะนี้เราต้องปั้นเว็บเราให้ดังก่อนครับผม
แล้วเราจะเอาโฆษณามาลงได้อย่างไรคะ
ไปสมัคร Google Adsense ง่ายที่สุดครับ แต่เงื่อนไขตอนสมัครคือ ในเว็บไซต์ของเราต้องมีบทความ ประมาณ 10 – 12 บทความที่เป็นบทความขนาดยาวครับ ถึงจะอนุมัติได้ง่ายครับ
อยากสอบถามค่ะ ถ้ามีช่องยูทูปและผ่าน Adsense แล้ว ใส่ลิ้งค์ URL หารายได้เพิ่มนอกเหนือจากโฆษณาที่แสดงบนวีดีโอyoutube ของเราได้ไหมคะ ผิดกฏไหมควรใส่เป็นข้อความอธิบายด้านล่างใช่ไหมคะ ห้ามใส่ลิ้งค์บนวีดีโอโดยตรงมช่ไหมคะ และ ลิ้งค์อัไรที่ผิดกฏหรือใช้ได้บ้างคะ
ใส่ URL ต้องเป็นเว็บไซต์ของเราครับ แล้วเรา adsense ไปวางบนเว็บของเราเองจะไม่ผิดกฎการสร้างรายได้ครับ แต่ถ้าเราลิงค์ไปเว็บหาเงินอื่นๆ แบบนี้อาจจะโดนคิดว่าเป็น SPAM ได้ครับ
ทำ blog กับ blogger มาได้ 2 เดือนค่ะ สมัคร adsense ไปแล้ว มันขึ้นว่าให้รอการตั้งค่าจาก google มานานมากๆแล้วค่ะ ไม่มีเมลล์ตอบว่าไม่ผ่านด้วย ไม่รู้ว่าติดปัญหาตรงไหน แก้ไขไม่ได้เลยค่ะ
ส่วน blog เขียนเองไม่ได้ copy จากใครมามี 120 บทความ และคิดว่าเนื้อหาไม่ผิดกฎของ adsense ค่ะ
ตอนขอ adsense ใส่เบอร์โทรกับที่อยู่จริงไปไหมครับ ถ้าใส่ไปมันจะมีให้ request pin หรือยืนยันเบอร์โทรครับ
ทำเว็บไชต์ ิblogger ของ google ต้องชื้อ web hosting ไหม และถ้าซื้อของใครดี
blogger ถ้าเราไม่้ใช้โดเมนของเรา ไม่ต้องซื้อครับ
กำลังจะเปิดเว็บเกี่ยวกับคำนวณเรื่องลดน้ำหนัก และเพิ่มกล้ามเนื้อ ประมาณว่าคำนวณพลังงานที่ได้รับต่อวันเท่าไหร่, ใน 1 สัปดาห์ควรลดไม่เกินกี่ กก., โภชนาการควรจะกินแบบไหน ออกกำลังกายมีหลายวิธีให้เลือก พอจะหาคนมาลงโฆษณาในเว็บได้หรือเปล่า เช่น ขายอาหารคลีน, ขายเวย์โปรตีน, ขายอุปกรณ์ออกกำลังกาย เป็นต้น แล้วเราควรจะเอา banner มาแปะตรงไหนของเว็บ หรือ จะแยกเป็น page นึงเกี่ยวกับสินค้าและบริการโดยตรงเลยครับ
อยากให้เชคดูก่อนครับว่า Service แบบนี้มีเว็บ หรือ มี Application ที่ทำไปแล้วบ้างหรือยังครับ ถ้ามีมากกว่า 4 เจ้าแล้ว โอกาสของเราจะลดลงครับ ผมเคยมีคนมาสอบถามเรื่องเดียวกันเป๊ะเลยครับ เลยให้คำแนะนำไปว่า สำหรับคนไทยอาจจะยุ่งยากไปในการคำนวณ แล้วดูตัวเลข แต่ถ้าเราแนะนำอะไรที่เป็นสูตรสำเร็จเลย น่าจะประสบความสำเร็จมากกว่าครับ เช่น เมนูลดน้ำหนักใน 7 วัน, ท่าออกกำลังกาย ลดน้ำหนักวันละ 1 ชม. เป็นต้นครับ
ขอบคุณมากเลยครับ จะนำไปปรับใช้ดูครับผม
อยากทราบว่า เราจะหารายได้จากคนที่เข้ามาใช้เว็บไซต์เรา ได้ยังไงครับ โดยไม่ใช้ google Adsense
ขอบคุณครับ
ขึ้นอยู่กับว่าเราทำเว็บไซต์อะไรครับ ถ้าเป็นไปได้เราขายสินค้าหรือบริการในเว็บไซต์ของเรา น่าจะมีรายได้ครับ
สวัสดีครับ ข้อมูลดีมากเลยครับ ขออนุญาติสอบถามสักนิดนะครับ
ผม มี Adsense ที่ผ่านกฎการสร้างรายได้เเล้วกับ Youtube เเละรับรายได้มาตลอด 9 เดือนครับ
ปัจจุบันผมกำลังจะเปิด Web หัวข้อที่สงสัย
1. Adsense ใช้อันเดิมกับ Youtube ใช่หรือไม่ครับ
2. ขั้นตอนการยืนยัน ให้ Adsense อนุมัติ เราต้องส่งไปสอบอย่างไรครับ ให้คุณ พลากร เขียนไว้ว่าเขียนกระทู้ 10-12 ยาวๆเเล้วเราต้องยื่นส่งอย่างไรครับ
3.รายได้เดิมที่มีอยู่เเล้วจาก Youtube จาก Adsense ของ Google หากทำเว็บเราจะมีการเเยกในส่วนของรายได้ เป็นอีกประเภทใช่หรือไม่ครับ เช่น เเยกรายได้ที่มาจาก Youtube เเละ website
ต้องขอรบกวนจุดนี้สัดนิดครับ web นี้ดีมากครับ อนาคตอยากเรียนด้วยมากครับ
ใช้ email adsense account เดียวกันได้ครับ แต่เราต้องไปเพิ่ม โดเมน หรือ เว็บของเราเข้าไปใน adsense ครับ จากนั้น Google ก็จะเข้ามาตรวจเว็บเราครับ
ขอบคุณมากเลยครับ
เวปไซเรา 1โดเมน สามารถทำทั้งfacebook instant article กับ
Google AdSense ใด้ใน1โดเมนรึเปล่าครับ
อันนี้ไม่ชัวร์ 100% แต่ก่อนหน้านี้ facebook ads เขาไม่ให้มี google adsense อยู่ครับ
บทความยาว สักสองโหลที่ต้องเตรียมไว้
แค่ไหนถึงเรียกว่ายาวครับ
500 คำขึ้นไปครับ แต่ถ้าทำได้ 1000 จะดีมากๆครับ
ทำเว็บไซต์ และมีโฆษณาติดแล้ว มีคนเข้าเว็บเฉลี่ยหลักร้อยต่อวัน แต่ยอดคลิ๊กโฆษณาไม่มีเลย แบบนี้ปรกติไหมครับ ทำยังไงให้คนกดคลิ๊กโฆษณาครับ
ปกติครับ อัตราการคลิกโฆษณาในเว็บ ไม่เกิน 1% – 2% ครับผม
สักวันละ 500 ขึ้นไปน่าจะเห็นผลครับ
เวบไซต์มีบทความอัพขึ้นทุกวันมากกว่า 5 ปีปกติจะมีโฆฆณาแค่แบรนด์เนอร์บนเวบต์เท่านั้น อยากให้มีโฆษณาจากกลูเกิลเข้า ไม่ทรา[ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
สมัครใช้งาน google adsense ได้เลยครับผม
ขออนุญาตครับ เราสามารถ เอาเว็บไซต์ของเราที่สร้างเสนอความสามารถของเว็บไซต์ เพื่อที่จะขายเว็บไซต์ ได้ที่ใหนบ้างครับ
เว็บที่จะเสนอขาย ต้องมีเนื้อหา และ มีผู้ชมครับ มีแต่ feature อย่างเดียวขายยากครับ ลองดู https://empireflippers.com/ ครับ
ผมพึ่งทำเว็ปครั้งแรกไม่มีประสบการณ์เราต้องมีเพจวิวเท่าไหร่จึงจะมีโฆษณาเ
ไม่เกี่ยวกับจำนวน page views ครับ เกี่ยวที่เนื้อหาของเรา จะมีโฆษณามาลงหรือเปล่ามากกว่าครับผม
พี่ครับผมอยากทำเว็บข่าวกีฬา อยากแปลข่าวจากต่างประเทศมา ไม่ทราบจะผิดกฎอะไรไหมครับ สามารถทำได้ไหมครับ
แปลอาจจะต้องขออนุญาติต้นฉบับก่อนครับ
รบกวนสอบถามค่ะ ถ้าเราอยากทำเพจ ที่เอาคอร์สออนไลน์ มาแปะลงใน พอมีคนกดสมัครแล้วเราได้ค่าคอม แบบนี้เราทำได้ไหม ค่ะ แล้วต้องติดต่อยังไงพอทราบไหมค่ะ
บางเจ้า ไปสมัครเป็น affiliate ได้ครับ ลองสอบถามเจ้าของค่ายดูครับผม