โปรแกรมเมอร์ ที่ดีนั้น ไม่ใช่โปรแกรมเมอร์ที่สามารถเขียนโปรแกรมพิศดารได้ แต่เป็นโปรแกรมเมอร์ที่สามารถเขียนโปรแกรมออกมาแล้ว สื่อสารกับคนอื่นได้ และมี bug น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ต่างหาก เราทุกคนสามารถเป็นสุดยอดโปรแกรมเมอร์ ได้ทั้งนั้นถ้ารู้จัก เคล็ดวิชาบางอย่างที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันของโปรแกรมเมอร์
1. เลิก copy & paste ซะ
จริงอยู่การ copy & paste จะทำให้การเขียนโปรแกรมเราทำได้อย่างรวดเร็วขึ้น แต่ในระยะยาวนั้นไม่ดีเลย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราต้องการเขียนโปรแกรมออกรายงานสองตัว ที่มี feature คล้ายคลึงกัน หากเราใช้วิธีการ copy & paste ทำในตอนแรกอาจจะดี แต่เมื่อไรก็ตามที่มี requirement เพิ่ม หรือต้องแก้ไขโปรแกรมขึ้นมา ต้องไปแก้โปรแกรมสองที่กันเลยทีเดียว สองที่ยังไม่เท่าไร ถ้าเรา copy & paste หลายๆที่เข้า ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ให้เราเลิกนิสัย copy & paste แล้วใช้เคล็ดวิชาข้อถัดไปกันดู
2. reuse function/class
ถ้ามีอะไรที่เราต้องใช้ซ้ำสองที่ขึ้นไป เราควรจะแยกออกมาเป็น class หรือไม่ก็ function เพื่อความสะดวกในการแก้ไขภายหลัง เวลามีอะไรต้องเพิ่มเติม หรือมีอะไรผิด ก็เข้ามาแก้ไขได้เลยที่เดียว นอกจากนั้น เมื่อมี requirement ใหม่มา ถ้ามี function หรือ class ที่เราเคยเขียนไว้แล้ว และสามารถ reuse ได้ ก็จะประหยัดเวลาเข้าไปอีก
3. beauty your code
code ที่เราเขียน ควรจะทำให้สวยงาม น่าอ่านครับ บางคนอาจจะคิดว่า เฮ้ย แค่เขียนโปรแกรมก็ไม่มีเวลาแล้ว แต่ลองคิดถึงตอนที่เราจะต้องกลับมาแก้ไขสิครับ มันจะเจ็บปวดกว่าการเสียเวลาเพิ่มเติม อีกสักเล็กน้อยในตอนนี้เสียอีก และเดี๋ยวนี้ IDE ทุกอย่าง ก็มีความสามารถในการ reformat code ได้อีกต่างหาก แถมยัง config ได้ว่า จะให้ format เป็นอย่างไรได้ด้วย ลองเข้าไปอ่านคู่มืออย่างจริงจังสักครั้ง จะช่วยเราอย่างมากในอนาคต
code สวยหรือไม่สวยนี่นอกจากจะทำเพื่อตัวเองแล้ว ยังทำเพื่อทีมงานอีกด้วย เพราะเมื่อไรก็ตาม ที่มีคนมาแก้ไขต่อจากเรา เปิด code มาแล้วอ่านยาก หรือต้องมานั่ง reformat ก่อนนี่ รับรอง เราอาจจะได้รับคำสรรเสริญเป็นของขวัญแน่ๆ
ลองดู opensource ดังๆ ส่วนมาก code จะสวยงามและอ่านง่ายมากครับ
4. comment comment and comments
ถัดจากเรื่องความสวยงามของ code ก็ต้องเป็นเรื่อง comment ใน code นี่แหล่ะครับ comment จะช่วยได้หลายกรณีเลยครับ ตั้งแต่ สามารถให้เพื่อนร่วมทีมอ่านได้ ว่า code นี้ไว้ทำอะไร หรือแม้แต่เราเอง ถ้าเขียนโปรแกรมไปเยอะๆแล้ว อาจจะลืมก็ได้ การมี comment จะช่วยเตือนความจำให้เรา และช่วยอธิบายให้คนอื่นเข้าใจครับ
5. know your tools
ถ้าเราใช้เครื่องมืออะไร เราก็ควรจะทำความรู้จักเครื่องมือนั้นให้ดีระดับหนึ่งก่อนเลยครับ เพราะเครื่องมือ เกิดมาเพื่อการลดเวลาการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง IDE ที่ไม่ได้มีแค่ไว้ hilight code หรือ show code hint เท่านั้น เราควรอ่านคู่มือ อย่างน้อยก็ต้องรู้บ้างว่าเครื่องมือที่เรากำลังใช้งานอยู่นั้น ทำอะไรได้บ้าง เพราะเครื่องมือที่เราใช้ในปัจจุบันยิ่งเก่งขึ้นทุกวัน และทำให้เราทำงานได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นถ้าเราใช้มันเป็น
6. ดู code ชาวบ้านบ้าง
การดู code ของคนอื่นจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ให้กับเรา ถ้าเราเขียน code โดยที่ไม่ดู code ของคนอื่นเลย เราอาจจะจมปลักอยู่กับรูปแบบเดิมๆของการเขียนโปรแกรม รูปแบบเดียว ซึ่งคนอื่นอาจจะเขียน code ได้ดีกว่าเราก็เป็นได้ โดยเฉพาะ opensource ที่ได้รับความนิยมมากๆ มักจะมีวิธีการเขียน code ที่มีประสิทธิภาพ เพราะมีการใช้งานอย่างหลากหลาย และมีผู้ร่วม code มากมาย
การศึกษาที่ได้จาก code ของคนอื่นนั้น เป็นเรื่องดี บางครั้งไม่ได้มีแต่ข้อดีที่เราควรศึกษา แต่เราอาจจะเห็นข้อเสียใน code ของคนอื่นที่เราไม่ควรเลียนแบบด้วย นอกจากนั้น การดู code บ่อยๆจะทำให้ เราเข้าใจ code ได้รวดเร็วขึ้น และเฉียบคมมากขึ้นอีกด้วย
7. ไม่ยึดติดกับภาษาเขียนโปรแกรม
สิ่งที่ดีที่สุดในการเขียนโปรแกรมก็คือ ให้เลือก the right tool for the right jobs เลือกเครื่องมือให้เหมาะกับงานนั่นเอง ภาษาเขียนโปรแกรม 1 ภาษาอาจจะไม่ได้เป็นภาษาครอบจักรวาลก็เป็นได้ ยกตัวอย่าง ภาษา php เหมาะกับ web application มาก ถ้าเอามาทำเป็น desktop application ก็สร้างได้นะ แต่อาจจะลำบากกว่าภาษาที่เน้นทำ desktop application อย่าง visual basic หรือถ้าฝั่ง mac ภาษา swift น่าจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
ความหมายที่แท้จริงของเคล็ดวิชานี้ก็ คือ การวางทิฐิในภาษาสำหรับการเขียนโปรแกรมลงไป โดยเฉพาะโปรแกรมเมอร์มือใหม่ มักจะคิดว่าว่า สิ่งที่ตัวเองศึกษา เป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่จริงๆ แล้วไม่ได้มีสิ่งไหนดีที่สุดในทุกๆด้าน ทุกภาษามีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ที่สำคัญที่สุดก็คือ การเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงาน ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นนั่นเอง
8. อ่าน documentation ให้ทะลุ
บางทีเราต้องการความรวดเร็วในการใช้งาน library บางตัว จนทำให้เราอ่านแต่ tutorial เบื้องต้น เพื่อที่จะทำงานให้ทันเท่านั้น แต่แล้วก็กลับเจอว่า library นี้ ทำอะไรในแบบที่เราคิดไม่ได้บ้าง หรือต้องใช้วิธีการพิเศษบ้าง การอ่าน documentation อย่างน้อยจะทำให้เรารู้ว่า library หรือ framework นี้ทำอะไรได้บ้าง และใช้งานอย่างไร ให้ถูกต้อง
โปรแกรมเมอร์ที่รู้จักอ่าน documentation จะพัฒนาตัวเองได้มากกว่า โปรแกรมเมอร์ที่ไม่อ่าน document เพราะ คนที่อ่าน document เป็นคนที่ตั้งใจศึกษาหาความรู้ในการใช้งานที่ถูกต้อง โดยเสียสละเวลามาอ่าน document ที่จำเป็นและต้องการใช้งาน
9. หมั่นพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
โปรแกรมเมอร์ต้องรู้จักพัฒนาความรู้ของตัวเองเพิ่มเติมตลอดเวลา เพราะเทคโนโลยีในปัจจุบันก้าวไปเร็วมาก library ใหม่ๆ เกิดแทบทุกวัน ดังนั้น โปรแกรมเมอร์จะต้องพัฒนาตัวเอง หมั่นอ่านหนังสือ หาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ และที่สำคัญที่สุดคือ code บ่อยๆ จึงจะเป็นสุดยอดโปรแกรมเมอร์ได้
สำหรับ เคล็ดวิชาทั้ง 9 ข้อนี้ หวังว่าโปรแกรมเมอร์ทุกคนจะนำไปใช้พัฒนาการเขียนโปรแกรม และเป็นสุดยอดโปรแกรมเมอร์ให้ได้นะครับ
Blog คือ เครื่องมือที่ใช้สร้างโอกาส
และ สร้างตัวตนได้ ทุกยุคทุกสมัย
(สำหรับ 50 ท่านแรก)
รับเทคนิค ความรู้ ข่าวสาร การทำเว็บไซต์
จาก พลากร สอนสร้างเว็บ
เฉพาะ สมาชิกเท่านั้น